4 พฤติกรรม หรืออุปนิสัยที่จะช่วยให้ผู้นำ พาองค์กรผ่านสภาวะวิกฤตไปได้

Posted by nor-arfah on April 22, 2022

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน บทบาทผู้บริหารของแต่ละท่านต่างมุ่งเน้นไปที่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้เติบโต หรือการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด แต่ในขณะนี้ ผู้บริหารคนเดียวกันนั้นต้องมาเผชิญกับอุปสรรค และสิ่งกีดขวางบางอย่างที่คนทั้งโลกไม่คาดคิดมาก่อน อย่างการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของไวรัส COVID-19 ทำให้ผู้บริหารต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในการเปลี่ยนเป้าหมายหลัก จากการเพิ่มยอดขายมาสู่การควบคุมต้นทุน และการรักษาสภาพคล่องของธุรกิจให้อยู่รอด รวมถึงลักษณะการทำงานในหลาย ๆ องค์กรต้องเปลี่ยนแปลงไป เพื่อรักษาสุขภาพ ความปลอดภัยทั้งของตนเอง และพนักงาน และนี่คือความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ของผู้นำองค์กรในปัจจุบัน

ผลสำรวจจากทีมghSMART ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้นำกว่า 21,000 คนทั่วโลก ซึ่งได้ข้อสรุปที่คล้ายกันออกมาว่า พฤติกรรม หรืออุปนิสัยของผู้นำ 4 แบบ ที่จะช่วยนำพาองค์กรผ่านสภาวะวิกฤตนี้ไปได้ จะต้องประกอบไปด้วย

1. Decide with speed over precision

การตัดสินใจเร็ว อาจสำคัญกว่าความถูกต้องแม่นยำ ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวัน ในสภาวะวิกฤตแบบนี้ ผู้นำที่ดีจะประมวลผลข้อมูลที่มีอย่างรวดเร็ว เรียงลำดับหรือกำหนดสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ และพร้อมที่จะตัดสินใจด้วยความมั่นใจ

สิ่งที่ควรปฏิบัติ:

  • เรียงลำดับความสำคัญให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับองค์กร
  • ถ้าต้องแลกเปลี่ยน หรือยอมเสียสละอะไรบางอย่างตอนนี้ ต้องแลกอย่างชาญฉลาด
  • กำหนดขอบเขตให้ชัดเจนว่าในเวลาแบบนี้ ใครมีบทบาทตัดสินใจเรื่องอะไรในองค์กร
  • การลงมือทำเป็นเรื่องสำคัญ และข้อผิดพลาดต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าช่วงเวลาปกติ เพราะฉะนั้น

2. Adapt boldly

ปรับตัวอย่างกล้าหาญ และเปลี่ยนตามสถานการณ์ให้ทันท่วงที ผู้นำที่แข็งแกร่งจะก้าวผ่านสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ผู้นำจะต้องแสวงหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ไม่กลัวที่จะยอมรับในสิ่งที่ไม่รู้ และนำความเชี่ยวชาญภายนอกมาใช้เมื่อจำเป็น

สิ่งที่ควรปฏิบัติ:

  • เรื่องที่สำคัญที่สุด คือ การตัดสินใจให้ได้ว่าจะไม่ทำอะไร
  • โยนบทเรียน หรือ สิ่งที่คุณเคยใช้มาก่อนหน้านี้ทิ้งไป แล้วเริ่มคิดใหม่ ทำใหม่ เพราะสิ่งเดิม ๆ ไม่สามารถใช้ได้กับสถานการณ์ตอนนี้อีกต่อไป
  • เสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างองค์กร ให้ผู้นำสามารถติดต่อกับคนที่อยู่หน้างานได้โดยตรง และเร็วที่สุด

3. Reliably deliver

ผู้นำที่ดีควรลงมาปฏิบัติ หรือบัญชาการงานด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ผู้นำที่ดีควรแสดงความรับผิดชอบต่องานต่าง ๆ ด้วยตัวเองในยามวิกฤต แม้ว่าความท้าทาย และปัจจัยหลาย ๆ อย่างจะอยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ทีมมองภาพเดียวกัน และรับรู้ถึงเป้าหมายขององค์กรว่าตอนนี้ควรจะโฟกัสในเรื่องไหน โดยมีการแบ่งหน้าที่ และตัวชี้วัดที่ชัดเจน

สิ่งที่ควรปฏิบัติ:

  • ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และมี Dashboard หรือรายงานบันทึกประจำวัน เพื่อคอยควบคุมกลยุทธ์ และปรับใช้ตลอดเวลา
  • ตั้งค่า KPI (Key Performance Indicator) และตัวชี้วัดต่างๆ เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของคนในองค์กรทุก ๆ สัปดาห์
  • รักษาสุขภาพกาย และสุขภาพใจให้แข็งแรงพอที่จะสู้กับภาวะวิกฤตได้

4. Engage for impact

หาวิธีการสื่อสาร หรือเชื่อมต่อกับคนในองค์กร เพื่อกระตุ้นให้เห็นภาพของเป้าหมายเดียวกัน อย่าลืมว่าที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ ไม่มีงานไหนจะสำคัญเท่าการดูแลคนในองค์กรของคุณ ผู้นำที่มีประสิทธิภาพจะเข้าใจในสถานการณ์ และสภาพจิตใจของคนในทีม ผู้นำต้องหาวิธีการสื่อสารที่ดีที่จะเชื่อมต่อกับคนในทีมอย่างชัดเจน และทั่วถึง เพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับทีม รวมไปถึงกระตุ้นให้เห็นภาพของเป้าหมายเดียวกัน

สิ่งที่ควรปฏิบัติ:

  • ผู้นำต้องเชื่อมต่อพูดคุยกับคนในองค์กรแต่ละคนในทุก ๆ วันอย่างใกล้ชิดมากกว่าเดิม
  • ในสภาวะวิกฤต อาจจะต้องลงไปแก้ปัญหาบางอย่างด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทีม
  • ต้องกล้าที่จะถามหาความช่วยเหลือจากลูกน้องในสิ่งที่เราไม่รู้
  • อย่าลืมสร้างความมั่นใจให้กับทั้งฝั่งลูกค้า และฝั่งพนักงาน
  • มีน้ำใจ และช่วยเหลือคนในองค์กรให้มากที่สุด เพื่อให้เขาสามารถทำงานได้ในสภาวะที่ไม่ปกติ

ที่มา : www.peerpower.co.th