สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนๆนั้นต้องมีความรู้เรื่องไอทีสูง เมื่อคุณเข้ามาคุณต้องรู้จักเรื่องของการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีให้เป็น นี่คือ คาแรกเตอร์แรกที่จำเป็นในทุกๆบริษัท
อย่างที่สองคือ ต้องปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ถ้าธุรกิจเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ถ้าคุณเป็นคนที่สามารถปรับตัวได้เร็ว และรู้อนาคตว่าอีกเดี๋ยวจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน นั่นคือคนที่องค์กรทุกๆที่ต้องการ
อย่างที่สามเพิ่มเติมขึ้นมาจากความที่ธุรกิจไปเร็วคือ ต้องเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นและต้องแสดงออกมาให้คนอื่นได้เห็น
อย่างสุดท้ายที่น่าจะสำคัญสำหรับตัวเด็กเองคือ ทุกองค์กรต้องการคนที่มีแพชชั่นที่ตรงกันกับขององค์กร เหมือนเป็นการจับคู่กัน เวลาดูว่าแพชชั่นตรงกับองค์กรไหม ส่วนใหญ่เราดูที่ วิชั่นขององค์กรคืออะไร วัฒนธรรมขององค์กรคืออะไร แล้วตรงกับแพชชั่นของเด็กไหม ถ้าสามอย่างนี้ตรงกัน มันจะเป็นการสร้าง engagement (ความผูกพัน) สร้าง Loyalty (ความภักดีต่อองค์กร) ให้กับพนักงานได้ในระยะยาว
เพราะฉะนั้นบริษัทมีวัฒนธรรม วัตถุประสงค์ของธุรกิจ (business goal) และวิสัยทัศน์แบบนี้ ถ้าเด็กที่เข้ามามีแพชชั่นที่ตรงกันจะยิ่งง่ายในการทำให้เขาอินไปกับบริษัทนั้นด้วย ทำให้เขาอยากจะทำงานให้มันมากกว่าสิ่งที่บริษัทต้องการ
HR ต้องมี mindset ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันคือ สิ่งที่ดีที่สุด จะมีทุกๆอย่างที่สามารถพัฒนาได้อยู่เสมอ วิธีการง่ายๆในการที่จะพัฒนางาน HR ของตัวเองในวันนี้คือ ยังไม่ต้องไปมองเรื่องเทคโนโลยี มองที่กระบวนการทำงาน เรียงขั้นตอนมาทั้งหมด 1-10 กระบวนการที่ต้องทำ คุณตอบคำถามให้ได้ในทุกกระบวนการว่า ยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำอยู่ไหม จะทำตามลำดับขั้นไปเรื่อยๆ หรือจะลัดจาก 1 ไป 5 ได้เลยหรือเปล่า 2-4จำเป็นยังไง จำเป็นเพราะอะไร เคยจำเป็นในอดีตแต่ปัจจุบันไม่จำเป็นแล้ว เพราะฉะนั้นคุณสามารถทำ1แล้วไปทำ5ได้เลย เพราะฉะนั้น คุณต้องปลดล็อคตัวเอง ว่าสามารถที่จะทำอะไรให้ได้เร็วกว่าเดิม ทำให้ได้ดีกว่าเดิมแน่ๆ นี่คือขั้นแรกที่ HR สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยตัวเองได้
สองคือ ธุรกิจไปเร็ว HR จะต้องมี Multi-Skills มากขึ้นกว่าเดิม HRจะต้องเรียนรู้อะไรที่ไม่ใช่ฟังก์ชั่นของ HR เดิมๆที่เราเคยเรียนรู้ เช่น เวลา HR จะพัฒนา เราจะพัฒนาในเรื่องของ การบริหารสายอาชีพพนักงาน (Career Management) ,การจ่ายค่าตอบแทน (payments), การบริหารจัดการคนเก่ง (Talent Management), การให้รางวัล (rewards) หรืออะไรที่เป็นความรู้ของ HR เราพัฒนาตรงนั้นอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ ณ วันนี้ HR จะต้องมองข้ามแล้วตีความว่า HR หนึ่งองค์กรเท่ากับหนึ่งบริษัท ถ้าเราคิดว่าฟังก์ชันของ HR ของเราเท่ากับหนึ่งบริษัท คำถามคือใครคือลูกค้าของเรา แล้วเราจะทำให้ลูกค้าเค้าอยากซื้อสินค้าของ HR ได้ยังไง แล้วเราจะทำ Marketing ยังไงให้เค้ารู้สึกว่าเรามีคุณค่า แล้วเราจะทำ Financial ในตัวองค์กรของเราทำยังไงให้การทำงาน HR มันสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทให้ได้ ฉะนั้นสิ่งที่ HR จะต้องกลับมาเรียนรู้ใหม่คือเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจทั้งหมด เรื่องของ Financial, Marketing เรื่องของห่วงโซอุปทาน (Supply Chain) เพื่อให้เรารู้ว่า HR เองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ องค์กรประสบความสำเร็จได้ ถ้าเราเรียนรู้ทั้งหมดพวกนี้ได้ ไม่ว่าบริษัทจะปรับไปกี่รูปแบบก็ตาม HR ปรับให้เหมาะสมได้หมดแน่นอน
อ้างอิง : th.hrnote.asia